Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
5 posters
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โทรศัพท์ที่เข้ามาที่อีอาร์ ก็มีแต่ถามว่า มีเลือดมั้ย? ซักสิบครั้งได้มั้ง ในวันเดียวนะ -*-
แล้วในขณะเดียวกันพวกที่นอนอยู่ที่อีอาร์เองก็ต้องการเลือดอีกหลายตัวเหมือนกัน *- -
ทีนี้เลยอยากจะนำเสนอ เกี่ยวกับการถ่ายเลือดนี่แหละ เพราะจะต้องอธิบายให้เจ้าของสัตว์ฟังอยู่เสมอๆซ้ำไปซ้ำมาถึงพวกคุณสมบัติแล้วก็ขั้นตอนทั้งหมดอะนะ เอาแบบเข้าใจง่ายๆที่เราทำที่อีอาร์อะนะ ส่วนรายละเอียดเบื้องลึกก็หาเพิ่มเติมกันเองนะ
สุนัขที่ควรจะต้องได้รับเลือด (recipient)
- ในหนังสือเค้าจะกำหนดที่ Hct 20 กะ 15 กรณี acute กะ Chronic blood loss นะถ้าจำไม่ผิด แต่ที่เห็นๆก้อดูประกอบกับอาการและสาเหตุด้วย ถ้าหนักมากก้อควรจะได้เลือดเร็วๆหน่อยก้อดี
คุณสมบัติของสุนัขที่จะมาให้เลือด (Donor)
-สุขภาพแข็งแรง อายุ 1-8 ปี
-น้ำหนัก 20 กก. ขึ้นไป - แต่จริงๆแล้วอันนี้ส่วนนึงก้อขึ้นกับการตัดสินใจของหมอด้วยนะ นน.19.5 ก้ออาจจะให้ได้ แต่ปริมาณเลือดก้อน้อยลง เท่านั้นเอง
-ทำวัคซีนครบ ป้องกันเห็บหมัด พยาธิหัวใจเป็นประจำ
-ไม่ได้รับยาใดๆอยู่ - ไปถามมาแล้วว่าต้องหยุดยาหรือหลังจากได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย2-3สัปดาห์นะ
- เพศเมียไม่อยู่ในระหว่างเป็นสัด - คือฮอร์โมนในเลือดมันจะมากอะ แล้วก้ออาจจะมีการติดเชื้อได้ง่ายด้วย
(ไม่แน่ใจว่าตกหล่นอะไรรึป่าวนะ ถ้านึกได้จะมาเพิ่ม อิอิ)
ขั้นตอนโดยรวมนะ เมื่อต้องการจะรับเลือดจากสุนัขตัวหนึ่งที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวมาแล้ว
-ซํกประวัติก่อนนะ ให้ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
-จำเป็นจะต้องอธิบายถึงขั้นตอนว่า เราจะต้องตรวจอะไรยังไงบ้าง ใช้เวลาแค่ไหน - เจ้าของมักจะใจร้อนอยากได้เร็วๆ-*-
-อะขั้นต่อมาก้อจะตรวจเลือดDonorนะ โดยใช้หลอดตรวจร่างกายปกติ2หลอดนะ และอีก1หลอดเพื่อทำ cross matching นะ
-อ่อ SNAP 3DX นี่ถ้าตรวจได้ก้อดี แต่บางทีอาจจะไม่ตรวจก้อได้ถ้ามั่นใจว่าเค้าป้องกันเห็บหมัดได้ดี อันนี้แล้วแต่เจ้าของถ้าเค้าจะบริจาคให้หมาตัวเองอะนะ
-ถามอีกด้วยว่าถ้าเลือดนี้ไม่เข้ากับสุนัขของตัวเอง จะบริจาคให้กับตัวอื่นหรือไม่ ถ้าเค้าไม่เจาะจงผู้รับ ก้อแล้วไปมะต้องถาม
***เลือดของdonor ที่ตรวจแล้วอะนะก้อควรจะต้องมีค่าเลือดต่างๆอยู่ในเกณฑ์ดีอะนะ ซึ่งก้อแล้วแต่การพิจารณาของหมออีกอะแหละนะ***
ขั้นตอนการเก็บเลือดจาก donor
-วางยาซึม อ่ออันนี้ก้อต้องคุยให้ดีอีกแหละว่า อาจจะจำเป็นต้องวางยาเพื่อความปลอดภัยของสัตว์ด้วยอะแล้วก้อจะต้องเก็บเลือดจากที่คอจะต้องโกนขน ถ้าเจ้าของไม่โอเค ก้อจบข่าว หุหุ
ยาซึมนี่แล้วแต่จะใช้ ที่เคยเห็นก้อเปนเคตามีน ไดอะซีแปมนะ หรืออาจจะไดอะซีแปมอย่างเดียว
-ถุงเลือด อันนี้ใช้แบบของคน มันจะมีสารกันเลือดแข็งตัวอยู่ ***ต้องคำนวณก่อนว่าจะเก็บเลือดเท่าไหร่ โดยทั่วไปจะประมาณ 8%น้ำหนักตัวนะ *** ก้อต้องดูด้วยว่าสารกันเลือดแข็งสำหรับเลือดกี่ซีซี ถ้าเกินก้อต้องเอาออกด้วย
-เจาะเก็บเลือด ก้อมักทำที่ jugular นะ ถ้า cephalic เนี่ย สุนัขควรจะใหญ่มากๆอะ หรืออ้วนเจาะคอไม่ได้ไรงี้ แล้วก้อต้องโกนขน aseptic ก่อนนะ
-อ่อ ต้องมีเครื่องชั่งเลือดกะคนที่จะคอยพลิกถุงเลือดด้วยนะ อิอิ
-ที่นี้ก้อเจาะ! วางถุงเลือดต่ำๆเลือดจะได้ไหลมาง่ายๆ ระหว่างนี้ก้อชั่งนน.แล้วก้อพลิกถุงไปด้วยนะ
-จนกระทั่งได้นน.เลือดครบตามที่ต้องการก้อเอาเข็มออก กดห้ามเลือดให้ดีละ
อะ สมมติว่า crossmatch ผ่านแล้วนะ (ขั้นตอนดูหนังสือเอา ทำเองได้ไม่ยากมานัก อิอิ)
ทีนี้ก้อเอาเลือดมาให้กับตัวรับ
-ตัวรับ ก้อให้ยาแก้แพ้ก่อน ที่นี่ใช้ benadryl 2mg/kg ก่อนรับเลือด ซัก 15-30นาที
แล้วก้อวัดอุณหภูมิด้วยนะ เพื่อดูว่าระหว่างให้เลือดไป ไข้ขึ้นรึป่าว
-แรกๆก้อให้เลือดช้ามากๆก่อนใน 10-20 นาทีแรก ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก้อให้อัตราปกติ
รายละเอียดก้อเหมือนในหนังสืออีอาร์เลยนะ
***อ่อ เลือด 1 ถุงควรให้หมดภายใน 4 ชั่วโมงอะนะ แล้วก้อต้องพลิกถุงเลือดบ่อยๆด้วยนะ***
อ่า เท่านี้พอก่อนดีก่า อ่านแล้วตาลาย รายละเอียดปลีกย่อยมันจะเยอะเหมมือนกัน ใครอ่านแล้วสงสัยหรือเพิ่มเติมยังไงก้อโพสไว้เลยนะจ๊ะ
แล้วในขณะเดียวกันพวกที่นอนอยู่ที่อีอาร์เองก็ต้องการเลือดอีกหลายตัวเหมือนกัน *- -
ทีนี้เลยอยากจะนำเสนอ เกี่ยวกับการถ่ายเลือดนี่แหละ เพราะจะต้องอธิบายให้เจ้าของสัตว์ฟังอยู่เสมอๆซ้ำไปซ้ำมาถึงพวกคุณสมบัติแล้วก็ขั้นตอนทั้งหมดอะนะ เอาแบบเข้าใจง่ายๆที่เราทำที่อีอาร์อะนะ ส่วนรายละเอียดเบื้องลึกก็หาเพิ่มเติมกันเองนะ
สุนัขที่ควรจะต้องได้รับเลือด (recipient)
- ในหนังสือเค้าจะกำหนดที่ Hct 20 กะ 15 กรณี acute กะ Chronic blood loss นะถ้าจำไม่ผิด แต่ที่เห็นๆก้อดูประกอบกับอาการและสาเหตุด้วย ถ้าหนักมากก้อควรจะได้เลือดเร็วๆหน่อยก้อดี
คุณสมบัติของสุนัขที่จะมาให้เลือด (Donor)
-สุขภาพแข็งแรง อายุ 1-8 ปี
-น้ำหนัก 20 กก. ขึ้นไป - แต่จริงๆแล้วอันนี้ส่วนนึงก้อขึ้นกับการตัดสินใจของหมอด้วยนะ นน.19.5 ก้ออาจจะให้ได้ แต่ปริมาณเลือดก้อน้อยลง เท่านั้นเอง
-ทำวัคซีนครบ ป้องกันเห็บหมัด พยาธิหัวใจเป็นประจำ
-ไม่ได้รับยาใดๆอยู่ - ไปถามมาแล้วว่าต้องหยุดยาหรือหลังจากได้รับวัคซีนมาแล้วอย่างน้อย2-3สัปดาห์นะ
- เพศเมียไม่อยู่ในระหว่างเป็นสัด - คือฮอร์โมนในเลือดมันจะมากอะ แล้วก้ออาจจะมีการติดเชื้อได้ง่ายด้วย
(ไม่แน่ใจว่าตกหล่นอะไรรึป่าวนะ ถ้านึกได้จะมาเพิ่ม อิอิ)
ขั้นตอนโดยรวมนะ เมื่อต้องการจะรับเลือดจากสุนัขตัวหนึ่งที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวมาแล้ว
-ซํกประวัติก่อนนะ ให้ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
-จำเป็นจะต้องอธิบายถึงขั้นตอนว่า เราจะต้องตรวจอะไรยังไงบ้าง ใช้เวลาแค่ไหน - เจ้าของมักจะใจร้อนอยากได้เร็วๆ-*-
-อะขั้นต่อมาก้อจะตรวจเลือดDonorนะ โดยใช้หลอดตรวจร่างกายปกติ2หลอดนะ และอีก1หลอดเพื่อทำ cross matching นะ
-อ่อ SNAP 3DX นี่ถ้าตรวจได้ก้อดี แต่บางทีอาจจะไม่ตรวจก้อได้ถ้ามั่นใจว่าเค้าป้องกันเห็บหมัดได้ดี อันนี้แล้วแต่เจ้าของถ้าเค้าจะบริจาคให้หมาตัวเองอะนะ
-ถามอีกด้วยว่าถ้าเลือดนี้ไม่เข้ากับสุนัขของตัวเอง จะบริจาคให้กับตัวอื่นหรือไม่ ถ้าเค้าไม่เจาะจงผู้รับ ก้อแล้วไปมะต้องถาม
***เลือดของdonor ที่ตรวจแล้วอะนะก้อควรจะต้องมีค่าเลือดต่างๆอยู่ในเกณฑ์ดีอะนะ ซึ่งก้อแล้วแต่การพิจารณาของหมออีกอะแหละนะ***
ขั้นตอนการเก็บเลือดจาก donor
-วางยาซึม อ่ออันนี้ก้อต้องคุยให้ดีอีกแหละว่า อาจจะจำเป็นต้องวางยาเพื่อความปลอดภัยของสัตว์ด้วยอะแล้วก้อจะต้องเก็บเลือดจากที่คอจะต้องโกนขน ถ้าเจ้าของไม่โอเค ก้อจบข่าว หุหุ
ยาซึมนี่แล้วแต่จะใช้ ที่เคยเห็นก้อเปนเคตามีน ไดอะซีแปมนะ หรืออาจจะไดอะซีแปมอย่างเดียว
-ถุงเลือด อันนี้ใช้แบบของคน มันจะมีสารกันเลือดแข็งตัวอยู่ ***ต้องคำนวณก่อนว่าจะเก็บเลือดเท่าไหร่ โดยทั่วไปจะประมาณ 8%น้ำหนักตัวนะ *** ก้อต้องดูด้วยว่าสารกันเลือดแข็งสำหรับเลือดกี่ซีซี ถ้าเกินก้อต้องเอาออกด้วย
-เจาะเก็บเลือด ก้อมักทำที่ jugular นะ ถ้า cephalic เนี่ย สุนัขควรจะใหญ่มากๆอะ หรืออ้วนเจาะคอไม่ได้ไรงี้ แล้วก้อต้องโกนขน aseptic ก่อนนะ
-อ่อ ต้องมีเครื่องชั่งเลือดกะคนที่จะคอยพลิกถุงเลือดด้วยนะ อิอิ
-ที่นี้ก้อเจาะ! วางถุงเลือดต่ำๆเลือดจะได้ไหลมาง่ายๆ ระหว่างนี้ก้อชั่งนน.แล้วก้อพลิกถุงไปด้วยนะ
-จนกระทั่งได้นน.เลือดครบตามที่ต้องการก้อเอาเข็มออก กดห้ามเลือดให้ดีละ
อะ สมมติว่า crossmatch ผ่านแล้วนะ (ขั้นตอนดูหนังสือเอา ทำเองได้ไม่ยากมานัก อิอิ)
ทีนี้ก้อเอาเลือดมาให้กับตัวรับ
-ตัวรับ ก้อให้ยาแก้แพ้ก่อน ที่นี่ใช้ benadryl 2mg/kg ก่อนรับเลือด ซัก 15-30นาที
แล้วก้อวัดอุณหภูมิด้วยนะ เพื่อดูว่าระหว่างให้เลือดไป ไข้ขึ้นรึป่าว
-แรกๆก้อให้เลือดช้ามากๆก่อนใน 10-20 นาทีแรก ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก้อให้อัตราปกติ
รายละเอียดก้อเหมือนในหนังสืออีอาร์เลยนะ
***อ่อ เลือด 1 ถุงควรให้หมดภายใน 4 ชั่วโมงอะนะ แล้วก้อต้องพลิกถุงเลือดบ่อยๆด้วยนะ***
อ่า เท่านี้พอก่อนดีก่า อ่านแล้วตาลาย รายละเอียดปลีกย่อยมันจะเยอะเหมมือนกัน ใครอ่านแล้วสงสัยหรือเพิ่มเติมยังไงก้อโพสไว้เลยนะจ๊ะ
เนเธเนเนเธเธฅเนเธฒเธชเธธเธเนเธเธข เนเธกเธทเนเธญ Thu Apr 26, 2007 10:51 am, เธเธฑเนเธเธซเธกเธ 1 เธเธฃเธฑเนเธ
auvet65- she เม้าท์เป็นกิจวัตรประจำวัน
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 125
Registration date : 10/03/2007
Re: Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
จิงๆนะที่ตอนนี้มีน้องหมาต้องการเลือดเยอะมากจิงๆ แต่ปริมาณเลือดอะมีไม่พอเอาซะเลย
เหตุผลที่ Donor ยังมีไม่มากน่าจะมาจากเจ้าของยังไม่ค่อยทราบข้อมูล และไม่ทราบการรณรงค์เกี่ยวกับการบริจาคเลือดน้องหมา ซึ่งพี่ๆก็บอกว่าเรา(สัตวแพทย์ทั้งหลาย)ไม่สามารถไปชักจูงเจ้าของให้เอาหมามาบริจาคเลือดได้ (สภากาชาดเคยบอกกับพี่ๆว่ามันผิดจรรยาบรรณ) เช่น โอ้โฮ น้องหมาตัวใหญ่จัง ท่าทางแข็งแรง น่าจะเอามาบริจาคเลือดนะคะ หรือว่าหมอไปประกาศออกรายการวิทยุเพื่อขอเลือดน้องหมาก็ไม่ได้เช่นกัน
แต่เจ้าของสามารถชักจูง ประกาศหา หรือขอร้องเจ้าของคนอื่นได้ หรือโรงบาลสามารถปิดประกาศให้ข้อมูลกับเจ้าของได้ ถ้าเจ้าของสนใจสัตวแพทย์จึงสามารถเสนอแนะ ชี้แจงกับเจ้าของได้
สาเหตุที่ว่าทำไมถึงผิดจรรยาบรรณนั้น เราไม่รู้จิงๆอะ แต่ก็น่าเสียดาย ไม่งั้นคงมีเลือดมาต่อชีวิตให้น้องหมากันอีกมากอะ
เหตุผลที่ Donor ยังมีไม่มากน่าจะมาจากเจ้าของยังไม่ค่อยทราบข้อมูล และไม่ทราบการรณรงค์เกี่ยวกับการบริจาคเลือดน้องหมา ซึ่งพี่ๆก็บอกว่าเรา(สัตวแพทย์ทั้งหลาย)ไม่สามารถไปชักจูงเจ้าของให้เอาหมามาบริจาคเลือดได้ (สภากาชาดเคยบอกกับพี่ๆว่ามันผิดจรรยาบรรณ) เช่น โอ้โฮ น้องหมาตัวใหญ่จัง ท่าทางแข็งแรง น่าจะเอามาบริจาคเลือดนะคะ หรือว่าหมอไปประกาศออกรายการวิทยุเพื่อขอเลือดน้องหมาก็ไม่ได้เช่นกัน
แต่เจ้าของสามารถชักจูง ประกาศหา หรือขอร้องเจ้าของคนอื่นได้ หรือโรงบาลสามารถปิดประกาศให้ข้อมูลกับเจ้าของได้ ถ้าเจ้าของสนใจสัตวแพทย์จึงสามารถเสนอแนะ ชี้แจงกับเจ้าของได้
สาเหตุที่ว่าทำไมถึงผิดจรรยาบรรณนั้น เราไม่รู้จิงๆอะ แต่ก็น่าเสียดาย ไม่งั้นคงมีเลือดมาต่อชีวิตให้น้องหมากันอีกมากอะ
OHanchi- เพิ่งหัดเม้าท์
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 10
อายุ : 41
Registration date : 11/03/2007
Re: Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
อ่อ เพื่อนๆเราก็กระจายตัวทำงานตามที่ต่างๆ
อยากจะสอบถามข้อมูลว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกไหนกันบ้างที่มีการเก็บเลือดสุนัขอะ เอาไว้เป็นข้อมูล จะได้โคกันเวลาที่ไหนต้องการเลือด เพราะที่เรารู้ก็แค่ไม่กี่ที่เอง
อยากจะสอบถามข้อมูลว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกไหนกันบ้างที่มีการเก็บเลือดสุนัขอะ เอาไว้เป็นข้อมูล จะได้โคกันเวลาที่ไหนต้องการเลือด เพราะที่เรารู้ก็แค่ไม่กี่ที่เอง
OHanchi- เพิ่งหัดเม้าท์
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 10
อายุ : 41
Registration date : 11/03/2007
Re: Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
โอ้วววว....สุดยอดคัมภีร์....จะเก็บไว้ใช้เลยละกันนะ.....ขอบใจหลายๆที่มาโพส
Re: Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
เด๋วจาเอาไปโพสในห้องเคสนะ
แล้มีข้อมูลมาเพิ่มเติมด้วย อิอิ
แล้มีข้อมูลมาเพิ่มเติมด้วย อิอิ
auvet65- she เม้าท์เป็นกิจวัตรประจำวัน
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 125
Registration date : 10/03/2007
bmyt4348- เข้ามาเม้าท์...เป็นระยะ ๆ
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 33
Registration date : 11/03/2007
Re: Blood transfusion : อันที่จริงมันก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนะ อิอิ
โอ้ว ได้ความรู้มากมาย จะจำไว้เจ้าค่า
KUN-NOK- เพิ่งหัดเม้าท์
- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 26
Registration date : 13/04/2007
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
Permissions in this forum:
เธเธธเธเนเธกเนเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธเธเธดเธกเธเนเธเธญเธ